รวมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวใน ‘จังหวัดโอคายามะ’ ฉบับจัดเต็ม!
ก.ค. 03, 2020
- [favorite_button]
- Share
จังหวัดโอคายามะ

จังหวัดโอคายามะ (Okayama) เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งชอปปิ้งที่น่าสนใจมากมาย ด้วยที่ตั้งของจังหวัดซึ่งอยู่ติดกับทะเล ที่นี่จึงมีทั้งวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและอาหารทะเลอร่อยๆ หากใครกำลังมองหาที่เที่ยวในญี่ปุ่นที่ครบครันทั้งแหล่งท่องเที่ยว ที่ชอปปิ้ง และร้านอาหารอร่อยๆ เราขอแนะนำให้เที่ยวโอคายามะเลยค่ะ
วันนี้ fromJapan ได้รวบรวมข้อมูลของจังหวัดโอคายามะมาให้ทุกคนได้ศึกษากันแบบจัดหนักจัดเต็ม หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยให้ทุกคนเที่ยวโอคายามะได้อย่างราบรื่นนะคะ
สารบัญ
1.ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดโอคายามะ
- สะพานเซโตะโอฮาชิ (Great Seto Bridge / Seto Ohashi)
- เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Area)
- สวนโคราคุเอ็นแห่งโอคายามะ (Okayama Korakuen Garden)
- ปราสาทโอคายามะ (Okayama Castle)
- ศาลเจ้าคิบิทสึ (Kibitsu-jinja Shrine)
- พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอฮาระ (Ohara Art Museum)
- ปราสาทบิจจูมัตสึยามะ(Bitchu Matsuyama Castle)
- หมู่บ้านโบราณฟุกิยะ (Fukiya Furusato Village)
- สวนดอกกุหลาบ RSK (RSK Rose Garden)
- ภูเขาวาชู (Mt.washu)
- ถ้ำมากิ (Makido Cave)
- Okayama Barazushi ซูชิท้องถิ่นของโอคายามะ
- ซูชิปลามามาการิ (Mamakari-zushi)
- ลูกพีชสีขาว (White Peaches)
- คิบิดังโงะ (Kibi dango)
- พาร์เฟ่ต์ผลไม้ (Fruit parfait)
แหล่งชอปปิ้งในโอคายามะ
- ย่านโคจิมะยีนส์สตรีท (Kojima Jeans Street)
- มิตซุยเอาต์เล็ตพาร์คคุราชิกิ (Mitsui Outlet Park Kurashiki)
ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดโอคายามะ (Okayama)
จังหวัดโอคายามะตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกกุ (Chūgoku) ทางฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น เมืองหลักซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของจังหวัดนี้ด้วยคือเมืองโอคายามะ ส่วนเมืองสำคัญอื่นๆของจังหวัดคือเมืองคุราชิกิ (Kurashiki)เมืองทสึยาม่า (Tsuyama)เป็นต้น
โอคายามะเป็นจังหวัดที่เดินทางไปได้อย่างสะดวก หากโดยสารรถไฟชินคันเซ็นจะใช้เวลาเดินทางดังนี้
- จากโตเกียว 3 ชั่วโมง 17 นาที
- จากเกียวโต 1 ชั่วโมง
- จากฮิโรชิม่า 35 นาที
จังหวัดโอคายามะเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์และน่าสนใจ เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและโบราณสถานมากมาย อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของนิทานพื้นบ้านชื่อดังของญี่ปุ่นเรื่อง‘โมโมทาโร่’ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กชายผู้กล้าหาญที่เกิดมาจากลูกท้อ และภายหลังได้เดินทางไปปราบยักษ์พร้อมกับสัตว์สหายทั้งสามคือสุนัข ลิง และนก ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นว่าหน้าสถานีรถไฟมีรูปปั้นตัวละครจากโมโมทาโร่ รวมถึงฝาท่อที่หลายๆคนชอบถ่ายรูปด้วยเช่นกันค่ะ

ต่อจากนี้เราจะเริ่มแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งชอปปิ้งในโอคายามะกันเลยนะคะ
สถานที่ท่องเที่ยวในโอคายามะ
1.สะพานเซโตะโอฮาชิ (Great Seto Bridge / Seto Ohashi)

สะพานเซโตะโอฮาชิเป็นสะพานสองชั้นที่ยาวที่สุดในโลก ใช้เวลาสร้างนานกว่า 9 ปี
เราสามารถชมวิวสะพานแบบนี้ได้จากภูเขา Washuzan ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ Setonaikai National Park อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามในยามอาทิตย์อัสดง แถมยังถึงขั้นที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ภาพพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ ดังนั้นการชมทิวทัศน์ยามเย็นของสะพานเซโตะโอฮาชิจึงนับว่าเป็นไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้สำหรับคนที่มาเที่ยวโอคายามะค่ะ
วิธีเดินทาง
นั่งรถบัส Shimotsui Bus จากสถานีรถไฟ Kojima ไปลงที่ป้าย Washuzan Daini Tenboudai ใช้เวลา 25 นาที
พิกัด
1-1 Shimotsuitanoura, Kurashiki City, Okayama
เว็บไซต์
https://www.okayama-japan.jp/en/spot/912
2.เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Area)

เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง เป็นเขตเมืองเก่าของญี่ปุ่นที่ได้รับการอนุรักษ์มานานกว่า 300 ปี เขตเมืองเก่านี้เป็นที่ตั้งของบ้านโคมินกะหรือบ้านแบบญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งนับว่าเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าและควรได้รับการอนุรักษ์สืบต่อไป ใจกลางเขตคุราชิกิบิคังจะมีแม่น้ำ Kurashiki ไหลผ่าน นักท่องเที่ยวจึงสามารถนั่งเรือชมวิวรอบๆย่านนี้ได้

นอกจากนี้ภายในเขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคังยังมีสถานที่สำคัญๆหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Ohara Museum of Art, พิพิธภัณฑ์ Kurashiki Museum of Folkcraft, พิพิธภัณฑ์ Kurashiki Archeological Museum และย่านท่องเที่ยว Kurashiki Ivy Square
สำหรับร้านค้าและคาเฟ่ในย่านคุราชิกิบิคังนั้น สามารถอ่านรีวิวได้ในบทความ แนะนำ 4 ร้านน่าแวะใน Kurashiki ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยความเก๋

ที่นี่เป็นเมืองเงียบๆที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลา มี ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ดูกลมกลืนไปกับบรรยากาศของเมืองเก่า หากได้ลองสวมชุดกิโมโนหรือชุดยูกาตะเดินเล่นแล้วละก็ บอกได้เลยว่าถ่ายรูปสวยไม่แพ้เมืองเกียวโตเลยทีเดียว(เว็บไซต์ภาษาไทย : แนะนำร้านเช่าชุดกิโมโนและยูกาตะ)
วิวกลางคืนของที่นี้ก็โรแมนติกสุดๆ เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เช่นกัน
หรือหากใครกลับไม่ทันก็มีโฮมสเตย์และบ้านพักรับรองสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย (แนะนำที่พักในย่าน Kurashiki)
วิธีเดินทาง
เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ Kurashiki
พิกัด
Honmachi, Kurashiki, Okayama
ค่าบริการ
ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่
เว็บไซต์
https://www.kurashiki-tabi.jp/for/th/index.html
3.สวนโคราคุเอ็นแห่งโอคายามะ (Okayama Korakuen Garden)

สวนโคราคุเอ็นในจังหวัดโอคายามะเป็น 1 ใน 3 สวนญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุด สวนแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญอันดับหนึ่งในโอคายามะเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่ได้รับ 3 ดาวจากมิชลิน กรีน ไกด์ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
หากสนใจอ่านประวัติของสวนโคราคุเอ็นอย่างละเอียดและชมภาพโซนต่างๆภายในสวน สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่บทความ โคราคุเอ็น หนึ่งในสวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
พื้นที่ภายในสวนแห่งนี้กว้างขวางมากๆ คือมีทั้งโซนที่เป็นสวน สนามหญ้า สระน้ำ ธารน้ำไหล เนินเขา ต้นไม้ตามฤดูกาล และไร่ชา
ซึ่งส่วนที่เราอยากแนะนำให้ไปเยี่ยมชมคือ Enyo-tei House หรือสิ่งปลูกสร้างที่เห็นในรูปด้านล่างนี้ จากที่นี่เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของสวนโคราคุเอ็นได้อย่างทั่วถึงและเป็นจุดที่สวยงามที่สุด
สวนโคราคุเอ็นตั้งอยู่ข้างปราสาทโอคายามะ จากสวนเราจึงสามารถมองเห็นทั้งปราสาทและเนินเขา ซึ่งเราจะแนะนำปราสาทกันในข้อถัดไปนะคะ

วิธีเดินทาง
เดิน 25 นาที จากสถานีรถไฟ Okayama หรือนั่งรถบัสสาย Okaden bus จากสถานี Okayama ป้าย 1 ไปลงที่ป้าย Korakuenmae
ค่าบริการ
- ค่าเข้าชมเฉพาะสวน 410 เยน
- ค่าตั๋วชุดสำหรับเข้าชมทั้งสวนและปราสาท 580 เยน
เว็บไซต์
https://okayama-korakuen.jp/section/english/
4.ปราสาทโอคายามะ (Okayama Castle)

หลังจากเดินเล่นชมสวนโคราคุเอ็นแล้ว เราสามารถเดินไปชมปราสาทโอคายามะกันต่อได้เลย เพราะสถานที่ทั้งสองแห่งตั้งอยู่ติดกัน
ปราสาทโอคายามะมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ‘ยูโจ’ ซึ่งแปลว่าปราสาทอีกาดำ ที่ได้ชื่อนี้มาเป็นเพราะว่าหลังคาและผนังของปราสาทเป็นสีดำนั่นเอง
แต่เดิมปราสาทโอคายามะเคยถูกทำลายในช่วงศตวรรษที่ 18 เนื่องจากรัฐบาลไม่มีงบประมาณในการทะนุบำรุง รัฐจึงทำลายทิ้งจนเหลือแค่ตัวปราสาทหลัก ป้อม 2 แห่ง และประตูทางเข้าเท่านั้น
แต่ในเวลาต่อมาอาคารทั้งหมดยกเว้นป้อมก็ถูกทำลายเรียบในสงครามโลกครั้งที่สอง ดังนั้นปราสาทเวอร์ชั่นปัจจุบันจึงเป็นของใหม่ แต่ว่าสวยงามไม่แพ้ปราสาทดั้งเดิมเลย
หากสนใจอ่านประวัติของปราสาทโอคายามะอย่างละเอียดและชมภาพโซนต่างๆภายในปราสาท สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่บทความ ‘เที่ยวปราสาทโอคายามะ’ ปราสาทสร้างใหม่ แต่สวยและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
ภายในปราสาทมีทั้งหมด 6 ชั้น เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนเราสามารถชมวิวสวยๆของเมืองโอคายามะได้แบบนี้ค่ะ
วิธีเดินทาง
เดินเท้า 25 นาทีจากสถานีรถไฟ Okayama หรือนั่งรถบัสสาย Okaden bus จากสถานี Okayama ป้าย 9 ไปลงที่ป้าย Kenchomae
พิกัด
Okayama Castle, 2 Chome-3-1 Marunouchi, Kita Ward, Okayama
เวลาทำการ
- ปราสาทเปิดให้เข้าชมทุกวัน ในเวลา 9:00 – 17:30 น.
- ปิดทำการในวันที่ 29 – 31 ธันวาคม
ค่าบริการ
- ค่าเข้าชมเฉพาะปราสาท 320 เยน
- ตั๋วชุดที่เข้าชมได้ทั้งปราสาทและสวน 580 เยน
เว็บไซต์
https://okayama-kanko.net/ujo/english/index.html#page0
5.ศาลเจ้าคิบิทสึ (Kibitsu-jinja Shrine)

เราจะพาทุกคนไปแวะขอพรกันที่ศาลเจ้าคิบิทสึ ศาลเจ้าชื่อดังของจังหวัดโอคายามะกันนะคะ
คนญี่ปุ่นเขาเชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ขอพรอะไรก็สมปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีความสุขอยู่แล้วหรือไม่ค่อยมีความสุข เมื่อกลับจากที่นี่แล้วก็ล้วนได้รับพลังกลับไปใช้ชีวิตต่อไปค่ะ
ว่ากันว่าศาลเจ้านี้เป็นที่มาของนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นชื่อดังเรื่องโมโมทาโร่ด้วย
ลักษณะเด่นของที่นี่คือทางเดินที่ยาวถึง 360 เมตร นอกจากนี้แต่ละฤดูกาลยังมีดอกไม้ต่างชนิดให้ชมด้วย ถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่เลยล่ะ

วิธีเดินทาง
เดิน 10 นาทีจากถานีรถไฟ Kibitsu
พิกัด
Kibitsu-jinja Shrine, 931 Kibitsu, Kita Ward, Okayama City, Okayama
เวลาทำการ
5:00 น. – 18:00 น.
ค่าบริการ
เข้าชมฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
6.พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอฮาระ (Ohara Art Museum)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอฮาระ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะของเอกชนแห่งแรกในญี่ปุ่น อาคารที่เห็นในภาพถูกสร้างแบบสถาปัตยกรรมกรีก ด้านในมีการจัดแสดงศิลปะตะวันตกจากศิลปินที่มีชื่อเสียง อาทิ เอล เกรโก, พอล โกแกง, โคลด โมเนต์

ที่มา : https://www.ohara.or.jp/
นอกจากศิลปะตะวันตกแล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์นี้ยังมีงานศิลปะอื่นๆให้ชมอย่างหลากหลาย เช่น บ่อบัวที่จำลองจากที่พักของโมเนต์ เครื่องปั้นดินเผา รวมถึงงานหัตถกรรมต่างๆของญี่ปุ่น
อีกทั้งยังมีการจัดคอนเสิร์ตแกลเลอรี และมีร้านขายของที่ระลึกจากงานศิลปะให้ผู้เข้าชมได้ซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย
วิธีเดินทาง
เดิน 15 นาทีจากสถานีรถไฟ Kurashiki
พิกัด
1 Chome-1-15 Central, Kurashiki, Okayama
เวลาทำการ
9:00 – 17:00 น.
ปิดทุกวันจันทร์และช่วงวันที่ 28 – 31 ธันวาคม
ค่าเข้าชม
- บุคคลทั่วไป 1,500 เยน
- นักเรียนมัธยม/ประถม 500 เยน
- ต่ำกว่าระดับประถม เข้าชมฟรี
เว็บไซต์
7.ปราสาทบิจจูมัตสึยามะ(Bitchu Matsuyama Castle)
ปราสาทบิจจูมัตสึยามะตั้งอยู่ในเมืองทาคาฮาชิ เป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่น (ปราสาทที่เป็นของแท้ ไม่ได้ผ่านการบูรณะขึ้นใหม่) อีกทั้งยังเป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวจาก 12 ปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขา โดยอยู่ที่ความสูง 430 เมตร
ปราสาทบิจจูมัตสึยามะสร้างขึ้นในปี 1240 แต่เดิมปราสาทนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ ที่ตั้งจึงอยู่บนภูเขาสูงชันที่ยากต่อการโจมตี
แม้กระทั่งทุกวันนี้ปราสาทบิจจูมัตสึยามะก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย เพราะผู้มาเยือนต้องเดินขึ้นเขาประมาณ 20 นาทีเพื่อไปยังปราสาทจากจุดจอดรถที่ใกล้ที่สุด นอกจากตัวปราสาทแล้ว เรายังสามารถชมทิวทัศน์ของเมืองจากหลายจุดได้ตลอดทาง

ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทขนาดเล็กที่มีเพียงสองชั้นเท่านั้น ภายในปราสาทจะมีการจัดแสดงวัตถุโบราณและอธิบายถึงประวัติความเป็นมาของปราสาท
ในช่วงเดือนที่อากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม บริเวณรอบปราสาทและภูเขามักปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกในยามเช้าตรู่ บนภูเขาที่อยู่ใกล้เคียงกันซึ่งสามารถเดินทางไปได้โดยรถยนต์ก็มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นปราสาททั้งหลังได้ ภาพที่เห็นจากภูเขาลูกนั้นจะดูเหมือนกับว่าปราสาทกำลังลอยอยู่บนก้อนเมฆ

ที่มา
https://www.okayama-japan.jp/th/spot/949
วิธีเดินทาง
รถแท็กซี่(ไป-กลับ 2,000 เยน/คน) หรือรถส่วนตัว
พิกัด
1 Uchisange, Takahashi, Okayama
เวลาทำการ
- 9:00 น. – 17:30 น.(เมษายน – กันยายน)
- 9:00 น. – 16:30 น.(ตุลาคม – มีนาคม)
ค่าบริการ
- ผู้ใหญ่ : 300 เยน
- นักเรียนประถมและมัธยมต้น : 150 เยน
เว็บไซต์
https://www.city.takahashi.lg.jp/site/explore-takahashi/bitchu-matsuyama-castle.html
8.หมู่บ้านโบราณฟุกิยะ (Fukiya Furusato Village)

หมู่บ้านโบราณฟุกิยะ เป็นหมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาในเมืองทาคาฮาชิ ที่นี่เคยเป็นศูนย์รวมความเจริญรุ่งเรืองในยุคเอโดะถึงยุคเมจิ มีชื่อเสียงในการผลิตเบงการะ หรือดินสีแดงที่เกิดจากการออกซิเดชันของเหล็ก ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันแมลง ไม่เน่าเสีย และไม่เป็นสนิม
เบงการะเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนในชุมชนแห่งนี้ มักใช้ทำเป็นสีย้อมผ้า เครื่องเขิน และเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งนักท่องเที่ยวก็สามารถทดลองทำเครื่องปั้นดินเผาที่นี่ได้

ที่มา : https://www.okayama-japan.jp/
กระเบื้องหลังคาสีแดงเซคิชูกาวาระและอาคารที่สร้างจากเบงการะที่เห็นในภาพ ทำให้หมู่บ้านโบราณฟุกิยะเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นย่านอนุรักษ์ที่สำคัญสำหรับกลุ่มอาคารโบราณ
นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถบัสวินเทจสีแดงเเพื่อชมหมูบ้านนี้อย่างทั่วถึงได้อีกด้วย
วิธีเดินทาง
นั่งรถบัสจากสถานี Bichu Takahashi ไปยังสถานี Fukiya ใช้เวลาประมาณ 55 นาที
พิกัด
838-2 Nariwacho Fukiya, Takahashi, Okayama
เวลาทำการ/ค่าบริการ
ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่
เว็บไซต์
https://sites.google.com/site/fukiyakankou/home
9.สวนดอกกุหลาบ RSK (RSK Rose Garden)
สวนดอกกุหลาบ RSK เป็นสวนดอกกุหลาบที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1947 ภายในสวนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตรแห่งนี้มีดอกกุหลาบกว่า 1 ล้านต้น โดยแบ่งเป็น 15,000 พุ่มและ 450 สปีชีส์
ดอกกุหลาบภายในสวนกุหลาบ RSK นั้นบานสวยตลอดทั้งปี แต่ด้วยแผนการปลูกดอกไม้ของทางสวน ทำให้มีอยู่ 2 ช่วงเวลาที่ดอกกุหลาบในสวนนี้เบ่งบานเต็มที่และดูสวยที่สุด คือในฤดูใบไม้ผลิ (กลางเดือน พ.ค. – กลางเดือน มิ.ย.) และฤดูใบไม้ร่วง (กลางเดือน ต.ค. – ปลายเดือน พ.ย.) ในช่วงเวลาดังกล่าว สวนแห่งนี้จะกลายเป็นทะเลดอกไม้หลากสีสัน ทำให้ผู้มาเยือนล้วนประทับใจในความสวยงามที่ราวกับอยู่ในสรวงสวรรค์แห่งกุหลาบ
วิธีเดินทาง
นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ JR Okayama ไปลงที่ป้าย Shimonatsukawa ใช้เวลา 30 นาที และเดินต่ออีก 5 นาที
พิกัด
1592-1 Natsukawa,Kita-ku, Okayama-shi,Okayama Prefecture, Japan, 701-0164
เวลาทำการ
9:30 – 17:00 น. (เปิดให้เข้าสวนได้จนถึง 16:30 น.)
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ (นักเรียนชั้นมัธยมขึ้นไป) : 600 เยน
- เด็ก (นักเรียนชั้นประถมลงไป) : 300 เยน
ในช่วงเดือน ส.ค. /ก.ย. / ธ.ค. / ม.ค. จะปรับค่าเข้าชมเป็นราคาดังต่อไปนี้
- ผู้ใหญ่ (นักเรียนชั้นมัธยมขึ้นไป) : 300 เยน
- เด็ก (นักเรียนชั้นประถมลงไป) : 200 เยน
เว็บไซต์
http://www.rsk-baraen.co.jp/web/eng_index.html
10.ภูเขาวาชู (Mt.washu)
ภูเขาวาชูตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Setonaikai National Park ภูเขาแห่งนี้โดดเด่นด้วยรูปร่างลักษณะที่ดูคล้ายเหยี่ยวกำลังสยายปีกบิน ภูเขาลูกนี้จึงได้ชื่อว่า ‘วาชู’ ที่แปลว่าเหยี่ยวนั่นเอง
จากจุดชมวิวบนภูเขาวาชู เราสามารถชมทิวทัศน์ของหมู่เกาะชิวาคุ (Shiwaku Islands)ได้ หมู่เกาะชิวาคุประกอบไปด้วยเกาะแก่งต่างๆจำนวนกว่า 30 เกาะ โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ของทะเลในเซโตะ (Seto Inland Sea) หรือทะเลในที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะฮอนชู ชิโกกุ และคิวชู นอกจากนี้เรายังชมวิวสะพานเซโตะโอฮาชิที่เชื่อมระหว่างจังหวัดโอคายามะกับจังหวัดคากาวะจากบนภูเขาวาชูได้อีกด้วย
เส้นทางขึ้นภูเขาวาชูนั้นสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นทางขึ้นเขาโดยเฉพาะ ภาพทิวทัศน์ทะเลในเซโตะที่มองเห็นได้ในระหว่างทางขึ้นเขานั้นวิเศษสุดๆ โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์ตกดิน ภาพอาทิตย์อัสดงจากภูเขาวาชูสวยงามจนถึงขั้นที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ภาพพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
วิธีเดินทาง
สามารถเดินทางไปภูเขาชูได้โดยรถไฟและรถส่วนตัว สถานีรถไฟที่ใกล้ภูเขาวาชูที่สุดคือสถานี JR Kojima แต่จากสถานี Kojima ไปยังภูเขาวาชูนั้นใช้เวลาเดินถึง 40 นาที ดังนั้นทางเลือกที่สะดวกที่สุดคือขับรถไป เนื่องจากถ้าขับรถออกจากทางออก Kojima exit ของทางด่วน Seto-chuo Expressway แล้ว เราจะสามารถไปถึงภูเขาวาชูได้ภายใน 10 นาที นอกจากนี้ตรงหอชมวิวของภูเขาวาชูยังมีที่จอดรถฟรีอีกด้วย
พิกัด
Shimotsui-tanoura, Kurashiki-shi, Okayama
โทร
086-479-8660
เวลาทำการ
- เม.ย.- ก.ย. : 9:00 – 17:00 น.
- ต.ค – มี.ค. : 9:00 – 16:30 น.
ปิดทำการในช่วงวันหยุดปีใหม่ (29 ธ.ค. – 3 ม.ค.)
ค่าเข้าชม
เข้าชมฟรี
เว็บไซต์
https://japantravel.navitime.com/en/area/jp/spot/02301-2700336/
https://www.japanhoppers.com/en/chugoku/kurashiki/kanko/406/
11.ถ้ำมากิ (Makido Cave)
ถ้ำมากิเป็นถ้ำหินปูนที่มีความยาวรวมทั้งสิ้น 450 เมตร โดยภายในถ้ำจะมีทะเลสาบใต้ดินทอดตัวอยู่ทางด้านหลังของถ้ำด้วย อุณหภูมิภายในถ้ำมากิจะคงที่อยู่ที่ 15 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี
ถ้ำมากินั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติ (Natural monument)ของจังหวัดโอคายามะ ภายในถ้ำมากินั้นเต็มไปด้วยสีสันของหินงอกหินย้อยและแสงธรรมชาติที่ส่องสะท้อนจากทะเลสาบใต้ดิน ด้วยเหตุนี้บางครั้งถ้ำมากิจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘พิพิธภัณฑ์ถ้ำ’
นอกจากนี้ ผู้คนจะนิยมโยนเหรียญลงไปใน ‘Sensui (บ่อน้ำในสวน)’ เหมือนที่นักท่องเที่ยวนิยมทำเมื่อไปเที่ยวน้ำพุเทรวี่ในอิตาลี โดยเชื่อว่าจะทำให้ความปรารถนาของตนเป็นจริง
วิธีเดินทาง
นั่งรถไฟ JR ไปลงที่สถานี Ikura แล้วนั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Makido Cave (ใช้เวลา 40 นาที)
พิกัด
Mikido Cave, 2276-2, Toyonagaakouma, Niimi City, Okayama Prefecture
โทร
0867-74-3100
เวลาทำการ
8:30 น. – 17:00 น. (เปิดให้เข้าถ้ำจนถึง 16:30 น.)
ไม่มีวันหยุดทำการ
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่และนักเรียน ม. ปลาย : 1,000 เยน
- นักเรียน ม.ต้น : 800 เยน
- นักเรียนชั้นประถมลงไป : 500 เยน
เว็บไซต์
https://www.okayama-japan.jp/en/spot/955
อาหารท้องถิ่นของโอคายามะ
โอคายามะเป็นจังหวัดที่มีสภาพอากาศอบอุ่น อุณหภูมิกำลังพอเหมาะ อีกทั้งยังติดทะเล ที่นี่จึงเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยอาหารจานเด็ดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารทะเลต่างๆหรือซูชิที่ปะหน้าด้วยปลาคุณภาพดี
นอกจากนี้โอคายามะยังขึ้นชื่อเรื่องผลไม้มากๆ เพราะอากาศที่ดีทำให้ผลไม้ที่นี่มีรสชาติอร่อยหอมหวาน จนถึงขั้นที่โอคายามะได้ชื่อว่าเป็น ‘ดินแดนแห่งผลไม้’เลยทีเดียว
** หากต้องการไปเก็บผลไม้ที่สวนผลไม้ ควรตรวจสอบฤดูกาลและสภาพอากาศ รวมถึงติดต่อจองคิวก่อนไปเที่ยวที่สวน
ต่อจากนี้จะเป็นการแนะนำอาหารของจังหวัดโอคายามะค่ะ
1.Okayama Barazushi ซูชิท้องถิ่นของโอคายามะ
หากมาเที่ยวโอคายามะ สิ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือการลิ้มลองซูชิ โดยเฉพาะ Okayama Barazushi หรือซูชิท้องถิ่นของโอคายามะ Okayama Barazushi เป็นซูชิที่ปะหน้าด้วยปลาเนื้อดีจากทะเลในเซโตะ และมีการใช้ผักท้องถิ่นที่แตกต่างออกไปตามฤดูกาล ส่วนข้าวที่ใช้ปั้นก็เป็นข้าวหมักน้ำส้มสายชู อาหารทะเลของที่นี่นั้นนับว่าเป็นวัตถุดิบชั้นยอด ดังนั้นเรารับประกันได้เลยว่าซูชิทุกคำจะอัดแน่นไปด้วยความละมุนของเนื้อปลาคุณภาพดีแน่นอน
ที่มา
https://okayama-kanko.net/sightseeing/th/gourmet/
2.ซูชิปลามามาการิ (Mamakari-zushi)

ซูชิปลามามาการิเป็นซูชิที่ใช้เนื้อปลามามาการิเป็นหน้า โดยปลามามาการินั้นเป็นปลาท้องถิ่นเล็กๆที่อาศัยอยู่ในทะเลในเซโตะของโอคายามะ
เชฟจะนำเนื้อปลามามาการิไปหมักเกลือประมาณหนึ่งชั่วโมง จากนั้นล้างด้วยน้ำส้มสายชู แล้วนำไปหมักในน้ำส้มสายชูที่ผสมน้ำตาลกับเกลือแล้วทิ้งเอาไว้ข้ามคืน
วันรุ่งขึ้นเชฟจะนำเนื้อปลาที่ผ่านกระบวนการหมักเรียบร้อยแล้วไปวางลงบนข้าวปั้น กลายเป็นซูชิปลามามาการิแสนอร่อย ของดีของจังหวัดโอคายามะนั่นเอง
3.ลูกพีชสีขาว (White Peaches)
โอคายามะนั้นขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ แต่ในบรรดาผลไม้ทั้งหมด ลูกพีชสีขาวนั้นนับว่าเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อที่สุดและนับว่าเป็นเอกลักษณ์ของโอคายามะเลย ลูกพีชสีขาวที่โอคายามะนั้นมีรสชาติที่หวานอร่อยมากๆและมีกลิ่นหอมสุดๆ
เมื่อถึงฤดูร้อน ฟาร์มผลไม้ในจังหวัดโอคายามะจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเด็ดลูกพีชและทานกันสดๆตรงนั้นได้เลย หากใครมีโอกาสได้ไปโอคายามะในช่วงหน้าร้อน อย่าลืมใส่ฟาร์มผลไม้ลงไปในแพลนท่องเที่ยวกันนะคะ เพราะบอกได้เลยว่ามันเป็นประสบการณ์ที่วิเศษมากและหาได้แค่ที่โอคายามะเท่านั้น
https://www.okayama-japan.jp/en/feature/fruit
4.คิบิดังโงะ (Kibi dango)

คิบิดังโงะ เป็นขนมหวานแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่โด่งดังมากๆในโอคายามะ เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว คิบิดังโงะยังปรากฏอยู่ในนิทานเรื่องโมโมทาโร่ด้วย
คิบิดังโงะนั้นทำจากแป้งกิวฮี (Gyuhi)แป้งทำขนมของญี่ปุ่นที่ช่วยให้ตัวแป้งดังโงะมีความเหนียบหนึบมากกว่าการใช้แป้งทั่วๆไปทำ รูปร่างของคิบิดังโงะจะเป็นทรงกลมแบน นิยมเสิร์ฟคู่กับชาเขียว
หลังจากเที่ยวมาเหนื่อยๆทั้งวัน การแวะไปนั่งชิลล์ทานขนมอร่อยๆอย่างคิบิดังโงะนั้นเป็นอะไรที่ดีไม่น้อยเลยล่ะ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากให้ครอบครัวกับเพื่อนๆได้ด้วยนะ
5.พาร์เฟ่ต์ผลไม้ (Fruit parfait)

ในเมื่อ จังหวัดโอคายามะ ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ดินแดนแห่งผลไม้’ดังนั้นของหวานที่เราไม่ควรพลาดเลยก็คือพาร์เฟ่ต์ผลไม้นั่นเอง
พาร์เฟ่ต์ผลไม้สามารถหาทานได้ตามร้านอาหารในโซนใจกลางเมืองโอคายามะ โดยพาร์เฟ่ต์ที่นี่จะใช้ผลไม้ท้องถิ่นของโอคายามะอย่างพีชสีขาวหรือองุ่นญี่ปุ่นพันธุ์ไชน์มัสแคทเป็นส่วนประกอบหลัก ด้วยเหตุนี้พาร์เฟ่ต์ผลไม้ของโอคายามะนั้นมีความอร่อยที่ไม่เหมือนใครแน่นอนค่ะ
อื่นๆ
แหล่งชอปปิ้งในโอคายามะ
1.ย่านโคจิมะยีนส์สตรีท (Kojima Jeans Street)

เครดิต : https://www.okayama-japan.jp/th/spot/906
โคจิมะยีนส์สตรีท เป็นย่านที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักเสื้อผ้ายีนส์
ย่านโคจิมะยีนส์สตรีทเป็นแหล่งกำเนิดยีนส์ที่แรกในญี่ปุ่น ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านขายเสื้อผ้ายีนส์ที่มีคุณภาพทั้งแบรนด์ของญี่ปุ่นและแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 30 ร้าน
นอกจากจะได้ช้อปยีนส์แล้ว ที่นี่ยังมีหลายจุดให้ทุกคนได้ไปถ่ายภาพแบบเก๋ๆไม่ซ้ำใคร แถมยังมีคาเฟ่ให้นั่งพักในระหว่างเที่ยวอีกด้วย
(แนะนำ คาเฟ่และร้านอาหารในย่าน Kojima Jeans Street )

ที่มา : https://www.okayama-japan.jp/th/spot/906
วิธีเดินทาง
เดิน 15 นาทีจากสถานีรถไฟ Kojima
พิกัด
2 Kojimaajino, Kurashiki, Okayama
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
2.มิตซุยเอาต์เล็ตพาร์คคุราชิกิ (Mitsui Outlet Park Kurashiki)

ที่มา : https://www.okayama-japan.jp/en/spot/1117
มิตซุยเอาต์เล็ตพาร์คคุราชิกิ (Mitsui Outlet Park Kurashiki) เป็นอีกที่หนึ่งที่สายช้อปไม่ควรพลาด ห้างเอาต์เล็ตนี้รวบรวมทั้งสินค้าแบรนด์เนมทั้งของญี่ปุ่นและต่างประเทศซึ่งสามารถซื้อได้ในราคาสุดคุ้ม หรือหากใครไม่ได้มาช้อปก็สามารถแวะทานข้าวและเดินเล่นที่นี่เพลินๆได้ เพราะที่นี่อยู่ใกล้สถานี Kurashiki เพียง 3 นาทีเท่านั้น
วิธีเดินทาง
เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟ Kurashiki
พิกัด
12-3 Kotobuki-cho, Kurashiki City, Okayama
เวลาทำการ
10:00 – 20:00 น.
เว็บไซต์
https://mitsui-shopping-park.com/mop/kurashiki/english/
เว็บไซต์จังหวัดโอคายามะ
https://www.okayama-japan.jp/th/
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
จบไปแล้วนะคะสำหรับบทความแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆใน จังหวัดโอคายามะ สถานที่ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและโบราณสถานมากมาย อีกทั้งยังมีอาหารทะเลและผลไม้อร่อยๆที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลด้วย
fromJapan ขอฝากบทความแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดโอคายามะ นี้ไว้เป็นทางเลือกในการเดินทางครั้งหน้าของทุกคนด้วยนะคะ ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนหายคิดถึงญี่ปุ่นได้ไม่มากก็น้อยค่ะ
สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดโอคายามะ
‘ปราสาทโอคายาม่า’ ปราสาทสร้างใหม่ แต่สวยและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
โคราคุเอ็น หนึ่งในสวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
แนะนำ 4 ร้านน่าแวะใน Kurashiki ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยความเก๋










