รวมข้อมูล ‘จังหวัดโอกินาว่า’ และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต

ต.ค. 01, 2020

  • [favorite_button]

จังหวัดโอกินาว่า (Okinawa) เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่ามีทะเลและชายหาดสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น จนหลายคนถึงกับเรียกที่นี่ว่าเป็น ‘ฮาวายของญี่ปุ่น’ เลยทีเดียว แต่สถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่เพียงทะเลเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยสีสันของวัฒนธรรมอันหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีแหล่งมรดกโลกที่สำคัญ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่โอกินาว่าจะเป็นจังหวัดที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ต้องมาให้ได้สักครั้ง

วันนี้ fromJapan จะมาเล่าประวัติศาสตร์ของโอกินาว่าและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจ รวมถึงแนะนำอาหารเลิศรสด้วย เรามั่นใจว่าทุกคนจะต้องสนุกไปกับบรรยากาศ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดโอกินาว่าอย่างแน่นอน! 

สารบัญ

ประวัติศาสตร์ของจังหวัดโอกินาว่า
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโอกินาว่า
อาหารท้องถิ่นของโอกินาว่า
อื่นๆ

ประวัติศาสตร์ของจังหวัดโอกินาว่า

สมัยราชอาณาจักร

จังหวัดโอกินาว่าเคยเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรริวกิวในอดีต ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น อาณาจักรริวกิวก่อตั้งขึ้นในปลายปีศตวรรษที่ 9 โดยโช ฮาชิ (Sho Hashi) องค์ปฐมกษัตริย์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์โชรุ่นแรก โช ฮาชิได้รวบรวมสามอาณาจักรที่สำคัญอย่าง Nanzan, Chuzan และ Hokuzan เข้าด้วยกัน ต่อมาตระกูลโชก็ได้ครองบัลลังก์และเริ่มต้นราชวงศ์โชที่สอง ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของโอกินาว่านี้เป็นที่รู้จักกันในนาม ‘ยุคทองแห่งการค้าขาย’

ในช่วงที่อาณาจักรริวกิวทำการค้าขายทางทะเลกับจีน ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ได้สร้างวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของริวกิวขึ้นมา จากความหลากหลายของวัฒนธรรมที่ได้รับในระหว่างการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้ากับต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 อาณาจักรริวกิวถูกรวมเข้าไว้ในระบบศักดินาของญี่ปุ่นภายใต้การปกครองของโชกุน และผนวกเข้ากับญี่ปุ่นในยุคของรัฐบาลเมจิ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะเป็นจุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรริวกิวที่มีมานานกว่า 500 ปี แต่เหตุการณ์เดียวกันนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของจังหวัดโอกินาว่าด้วย

วัฒนธรรมของโอกินาว่า ไม่ว่าจะเป็นอาหารในพระราชวัง Ryukyuan, ศิลปะ งานฝีมือ และเครื่องเขิน ทั้งหมดต่างมีรากฐานมาจากครั้นที่ยังเป็นราชอาณาจักรริวกิวในฐานะประเทศแห่งการค้าขาย

เดิมทีศิลปะการแสดงของโอกินาว่าก็มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความบันเทิงแก่คณะฑูตจากประเทศจีนที่เข้ามาทำการค้า

ศิลปะการเต้นรำแบบดั้งเดิมอย่าง Kumi-odori ที่นักเต้นจะต้องสวมเครื่องแต่งกายปราณีต ร่ายรำประสานกับท่วงทำนองที่บรรเลงด้วยซอ (Sanshin) และโคโตะ (จะเข้ญี่ปุ่น) แสดงให้เห็นถึงความสง่างามและความเป็นริวกิว

ดังนั้นเราจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวัฒนธรรมและประเพณีเหล่านี้ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้อย่างกว้างขวาง

สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน

ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นบริเวณน่านน้ำในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก และในปี 1941 โอกินาว่าได้รับความเสียหายอย่างมากจากการสงครามครั้งนี้ เหตุการณ์ที่รุนแรงมากที่สุดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็น 1ใน 4 ของประชากรทั้งหมดในเกาะ ในช่วงหลังสงคราม โอกินาว่าถูกปกครองภายใต้การปกครองจากสหรัฐเป็นเวลา 27 ปี จนกว่าจะกลับสู่การควบคุมของญี่ปุ่นเหมือนเดิม

Back To Top

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโอกินาว่า

ในปัจจุบันจังหวัดโอกินาว่าได้ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเป็นพิเศษ ด้วยสภาพอากาศที่อบอุ่นและวัฒนธรรมที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติถึง 6,000,000 คนเลยทีเดียว

จังหวัดโอกินาว่าแบ่งออกเป็นเกาะหลักและหมู่เกาะรอบนอก ซึ่งเกาะหลักนั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือโอกินาว่าตอนใต้ โอกินาว่าตอนกลาง และโอกินาว่าตอนเหนือ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวใดที่น่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย!

เมืองนาฮะและโอกินาว่าตอนใต้

    1. ถนนโคกุซาอิโดริ (Kokusai Dori street)
    2. ตลาดสดมากิชิ (Makishi Public Market)
    3. ซากปราสาทชูริ (Shuri Castle)
    4. โอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World Culture Kingdom Gyokusendo)
    5. ถนนชูริคินโจ (Shuri Kinjo-Cho Road)

1. ถนนโคกุซาอิโดริ (Kokusaidori street)

SF11/ Shutterstock

ย่าน Kokusai Dori ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนาฮะ (Naha) ยาวไปตามถนนประมาณ 2 กม. เป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ บาร์ โรงแรม ร้านขายของที่ระลึก ร้านบูติก และห้างสรรพสินค้า ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดให้บริการจนถึง 22:00 น. นอกจากนั้นยังมีดนตรีสดที่บรรเลงขึ้นจากร้านอาหารหลายแห่ง เป็นย่านที่สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและอาหารรสเลิศ รวมถึงแหล่งชอปปิ้งสุดพิเศษที่สายช้อปไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ข้อมูลเกี่ยวกับถนนโคกุซาอิโดริ (Kokusaidori street)

วิธีเดินทาง
  • จากสนามบิน Naha นั่งรถไฟ Yui Rale ลงที่สถานี Miebashi เดิน 10 นาที
พิกัด
  • 1-1 Makishi, Naha City, Okinawa
เวลาทำการ
  • 9:00 – 22:00 น.
เว็บไซต์

Back To Top

2. ตลาดสดมากิชิ (Makishi Public Market)

ที่มา: https://kosetsu-ichiba.com/wp/wp-content/themes/makishi/img/index/mv-img.jpg

ตลาดสดของเมือง Naha ที่มีมานานกว่า 60 ปี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้ออาหารสดจากโอกินาว่าได้ ของที่นำมาขายส่วนใหญ่จะเป็นพวกปลา ผัก ผลไม้ และอาหารปรุงสำเร็จจากโอกินาว่า

โดยเฉพาะบริเวณชั้นสองนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหาร เราสามารถซื้อกับข้าวจากชั้นล่างขึ้นมาทานที่ชั้น 2 ก็ย่อมได้ หรือจะซื้ออาหารสดมาให้ทางร้านอาหารปรุงรสก็ได้นะ

หมายเหตุ : ขณะนี้ตลาดกำลังปิดปรับปรุง โดยมีกำหนดปิดในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2019 –  31 มีนาคม 2022 และย้ายไปที่ Nigiwai Square ชั่วคราว (เดินจากตลาดเดิมไป 3 นาที)

ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดสดมากิชิ (Makishi Public Market)

วิธีเดินทาง
  • เดิน 10 นาที จากสถานี Miebashi
พิกัด
  • 2-10-1, Matsuo, Naha-City, Okinawa
พิกัดร้านชั่วคราว
  • 2-7-10 มัทสึโอะ เมืองนาฮะ จังหวัดโอกินาว่า
เว็บไซต์

Back To Top

3. ซากปราสาทชูริ (Shuri Castle)

ในปี 1945 ปราสาทชูริ สถาปัตยกรรมสีแดงสดใสที่สื่อถึงความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ริวกิวนั้น ถือเป็นศูนย์กลางทางการเมือง การทูต และวัฒนธรรมของอาณาจักรริวกิวในอดีต อาคารหลักของตัวปราสาททำจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาณาจักรริวกิว ภายในตัวปราสาทมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมจีนเเละญี่ปุ่นผสมผสานกันอย่างลงตัวจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของริวกิว

“อุนา” หรือลานกว้างหน้าอาคารหลักปูด้วยแผ่นกระเบื้องสีแดงสลับกับสีขาวเป็นบริเวณที่ใช้ทำพิธีการของเหล่าขุนนาง ส่วนห้องอ่านหนังสือที่เชื่อมกับห้องโถงหลักนั้น นอกจากจะเป็นสถานที่ทรงงานของกษัตริย์แล้วก็ยังเป็นห้องรับรองผู้ส่งสารจากจีนและเจ้าหน้าที่จากซัทสึมะอีกด้วย

แม้ว่าวัฒนธรรมของราชอาณาจักรริวกิวถูกทิ้งให้อยู่ในซากปรักหักพัง แต่ในปี 1992 ปราสาทชูริได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ เพื่อเป็นการระลึกถึงปีที่ 20 นับของการกลับคืนสู่ญี่ปุ่นของโอกินาว่า

ในเดือนธันวาคมปี 2000 ปราสาทชูริได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกแห่งที่ 11 ของญี่ปุ่น

หมายเหตุ : เนื่องด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้ในวันที่ 31 ตุลาคม 2019 ขณะนี้ปราสาทจึงเปิดให้บริการเป็นบางส่วนเท่านั้น รายละเอียดสามารถตรวจสอบได้จากด้านล่าง

ข้อมูลเกี่ยวกับซากปราสาทชูริ (Shuri Castle)

วิธีเดินทาง
  • เดิน 4 นาทีจากสถานี Shuri
พิกัด
  • 1-2 คินโจโชว ชูริ เมืองนาฮะ จังหวัดโอกินาว่า
เวลาทำการ
  • 8:00 – 19:30 น.
เว็บไซต์

Back To Top

4. โอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World Culture Kingdom Gyokusendo)

Mix and Match studio / Shutterstock

โอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World) เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของจังหวัด เป็นธีมพาร์คที่เน้นวัฒนธรรมดั้งเดิมของโอกินาว่า ภายในมีหมู่บ้านอาณาจักรริวกิว (Kingdom Village), ถ้ำเกียวคุเซนโด (Gyokusendo) และพิพิธภัณฑ์สวนงูฮาบุพาร์ค (Habu Museum Park) ซึ่งสถานที่แต่ละแห่งจะมีค่าเข้าชมที่ไม่เท่ากัน

เนื่องจากโอกินาว่าเคยเป็นราชอาณาจักรริวกิวที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ที่นี่จึงเต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์และวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีความสวยงามตามแบบฉบับริวกิว นอกจากจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศย้อนยุคแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถศึกษาประวัติศาสตร์โอกินาว่าในยุคริวกิวและร่วมสนุกกับกิจกรรม workshop งานฝีมือได้ในหมู่บ้านหัตถกรรมดั้งเดิม

หากทอดสายตาไปรอบๆ เราจะเห็นบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งเรียงรายอยู่บนถนน หลังคาบ้านทำด้วยกระเบื้องสีแดง รวมถึงร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ 

อีกทั้งยังสามารถชมถ้ำหินปูนรูปร่างสวยงามตระการตาที่เกิดมาจากแนวปะการัง และเพลิดเพลินไปกับการแสดงท้องถิ่นของโอกินาว่าได้อีกด้วย

Suchart Boonyavech / Shutterstock

ข้อมูลเกี่ยวกับโอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World Culture Kingdom Gyokusendo)

วิธีเดินทาง
  • จากสถานี Asahibashi ขึ้นรถบัสหมายเลข #54 (สาย Maekawa) หรือ #83 (สาย Gyokusendo) และลงที่ป้ายรถบัส Gyokusendo-mae
พิกัด
  • 1336 Tamakimaegawa, Nanjo City, Okinawa
เวลาทำการ
  • 9:00 – 18:00 น.
เว็บไซต์

Back To Top

5. ถนนชูริคินโจ (Shuri Kinjo-Cho Road)

https://okinawatravelinfo.com/wp-content/uploads/2014/11/20141

ถนนชูริคินโจ (Shuri Kinjo-Cho Road) สร้างขึ้นในรัชสมัยกษัตริย์โชชินเพื่อเป็นทางเดินเชื่อมต่อจากปราสาทชูริไปยังท่าเรือ เดิมมีความยาวถึง 10 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 300 เมตรเท่านั้น

ความโดดเด่นของถนนสายนี้คือถนนทั้งหมดทำจากหินปูนริวกิว ระหว่างทางเดินจะมีจุดนั่งพักที่สามารถชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของสถานที่แห่งนี้ได้ บ้านเรือนเก่าแก่ของโอกินาว่าที่ตั้งเรียงรายตลอดสองฟากฝั่งทางเดินก็สร้างบรรยากาศผ่อนคลายและเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลเกี่ยวกับถนนชูริคินโจ (Shuri Kinjo-Cho Road)

วิธีการเดินทาง
  • นั่งโมโนเรลโอกินาว่ายูอิเรลไปลงที่สถานีชูริ แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
พิกัด
  • บล็อกที่ 1 ชูริคินโจโจ เมืองนาฮะ จังหวัดโอกินาว่า

Back To Top

โอกินาว่าตอนกลาง

    1. แหลมซัมปะ (Cape Zanpa)
    2. สวนพฤกษศาสตร์ตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Botanical Gardens)
    3. ซากปราสาทคัทสึเร็น (Katsuren Castle)
    4. หาดทรอปิคอล บีช (Tropical Beach)
    5. ถนนกลางทะเล (Mid-Sea Road)

1. แหลมซัมปะ (Cape Zanpa)

หน้าผาสูง 30 เมตรที่ทอดยาวไปตลอด 2 กิโลเมตร บริเวณสุดขอบผาจะมีประภาคารสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ ซึ่งเปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของที่นี่ อีกทั้งสถานที่แห่งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่มีชื่อเสียงด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับแหลมซัมปะ (Cape Zanpa)

วิธีการเดินทาง
  • จากสนามบินนาฮะใช้เวลาประมาณ 80 นาทีโดยรถยนต์
  • จากสนามบินนาฮะโดยใช้ทางแยกต่างระดับ Okinawa Kita IC ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
  • จากสนามบินนาฮะนั่งรถบัสสาย 28 ลงป้ายซัมปะมิซากิโคเอ็น แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
พิกัด
  • 1861 อุสะโยมิตันซน นาคากามิ จังหวัดโอกินาว่า
ติดต่อ
  • ลานพักผ่อนซัมปะมิซากิ
เบอร์โทรศัพท์
  • 098-958-0038

Back To Top

2. สวนพฤกษศาสตร์ตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Botanical Gardens)

ดื่มด่ำกับบรรยากาศร่มรื่นที่สวนพฤกษศาสตร์ตะวันออกเฉียงใต้ที่มีพืชพันธุ์แปลกตามากกว่า 1,300 กว่าชนิด ภายในสถานที่แห่งนี้มีต้นยุซุระยาชิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น!

นอกจากจะมีร้านอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว ยังสามารถเล่นกับสัตว์ต่างๆอย่างใกล้ชิดและเพลิดเพลินได้อีกด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับสวนพฤกษศาสตร์ตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Botanical Gardens)

วิธีการเดินทาง
  • จากสนามบินนาฮะใช้เวลาประมาณ 60 นาทีโดยรถยนต์
  • จากสนามบินนาฮะโดยใช้ทางแยกต่างระดับ Okinawa Kita IC ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
  • จากสนามบินนาฮะนั่งรถบัสสาย 90 ลงป้ายโนมินเค็งคิวเซ็นตามาเอะ แล้วเดินต่ออีก 20 นาที
พิกัด
  • 2146 ชิบานะ เมืองโอกินาว่า จังหวัดโอกินาว่า
เวลาทำการ
  • 9.00 – 22.00 น.
ค่าเข้าชม
  • บุคคลทั่วไป/ผู้ใหญ่ 1,500 เยน
  • นักเรียนมัธยมปลาย 1,000 เยน
  • นักเรียนประถมและมัธยมต้น 500 เยน
เบอร์โทรศัพท์
  • 098-939-2555
เว็บไซต์

Back To Top

3. ซากปราสาทคัทสึเร็น (Katsuren Castle)

ปราสาทคัทสึเร็นได้ถูกขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ในอดีตปราสาทแห่งนี้เป็นที่พำนักของกษัตริย์มานานหลายร้อยปี ก่อนจะกลายเป็นจังหวัดโอกินาว่ามาจนถึงปัจจุบัน ปราสาทคัทสึเร็นเป็นปราสาทแบบ Teikaku-shiki คือตั้งอยู่บนพื้นที่ราบทั้งสี่ และมีโครงสร้างเป็นรูปแบบบันได

กำแพงปราสาทถูกสร้างขึ้นโดยใช้ภูมิทัศน์จากธรรมชาติ โดยใช้กำแพงหินเป็นเสมือนขอบหน้าผาชัน กำแพงนี้มีความสูงมากกว่าระดับน้ำทะเล 98 เมตร มีบันไดโค้งและเนินลาดชัน ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันข้าศึก

นอกจากนี้ยังมีการค้นพบกระเบื้องญี่ปุ่นโบราณและเสาหินสลักจำนวนมาก อาคารหลังคากระเบื้องที่ถูกสร้างขึ้นแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของปราสาทในอดีต

ข้อมูลเกี่ยวกับซากปราสาทคัทสึเร็น (Katsuren Castle)

วิธีเดินทาง
  • ใช้รถไฟสาย Yui Rail แล้วลงที่สถานี Asahibashi จากนั้นเดินไปที่สถานีขนส่ง Naha (5 นาที) นั่งรถบัสสาย Yokatsu (# 52) ลงที่ป้ายรถบัส Katsuren Danchimae จากนั้นเดินประมาณ 5 นาที
พิกัด
  • 3908 Katsurenhaebaru, Uruma City, Okinawa
เวลาทำการ
  • 09:00 – 18:00 น.
เว็บไซต์

Back To Top

4. หาดทรอปิคอล บีช (Tropical Beach)

หาดทรอปิคอล บีช (Tropical Beach) เป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวท้องถิ่น รวมถึงชาวอเมริกาที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง

บริเวณชายหาดมีโต๊ะและเก้าอี้ให้เช่าสำหรับปาร์ตี้บาร์บีคิว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห้องอาบน้ำ ร้านค้า รวมถึงอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ ทำให้ชายหาดแห่งนี้เป็นที่นิยมสำหรับวันหยุดของญี่ปุ่น

ข้อมูลเกี่ยวกับหาดทรอปิคอล บีช (Tropical Beach)

วิธีเดินทาง
  • จากสถานีขนส่ง Naha Bus Terminal ให้นั่งรถบัสสาย Naha Airport Limousine Bus ไปลงป้าย Convention center mae
พิกัด
  • 4-2-1 Mashiki, Ginowan, Okinawa
เวลาทำการ
  • 9:00 – 21:30 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล)
เว็บไซต์

Back To Top

5. ถนนกลางทะเล (Mid-Sea Road)

ที่มา : https://bit.ly/2EqdIKO

ประสบการณ์ที่ต้องลองสักครั้งก็คือ ‘การขับรถบนมหาสมุทร’ ซึ่งเราสามารถทำแบบนี้ได้ที่ถนนกลางทะเล (Mid-Sea Road)

Mid-Sea Road เป็นถนนที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเล ทั้งสองด้านของถนนสายนี้เชื่อมกับเกาะจำนวน 4 เกาะที่อยู่รอบนอกเกาะหลัก และยังเชื่อมกับ Katsuren Peninsula และเกาะ Henza ด้วย

นอกจากนี้บน Kaichudoro Road Park ยังมีร้านค้าขายสินค้าจากท้องถิ่นและร้านอาหารอีกด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับถนนกลางทะเล (Mid-Sea Road)

วิธีเดินทาง
  • ขับรถจากทางแยกต่างระดับ Okinawa Kita IC โดยใช้ทางด่วนโอกินาว่า ผ่านถนน Okinawa Prefectural Road สาย 36 และ 10 ไปยัง Yonashiroyahira
พิกัด
  • Yonashiroyahira, Uruma-shi
เวลาทำการ
  • ตลอด 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์

Back To Top

โอกินาว่าตอนเหนือ

    1. หมู่บ้านริวกิว (Ryukyu Mura Village)
    2. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)
    3. ซากปราสาทนากิจิน (Nakijin Castle)
    4. แหลมมังซาโมะ (Cape Manzamo)
    5. แหลมมาเอดะและถ้ำใต้น้ำ (Cape Maeda & Blue cave)

1. หมู่บ้านริวกิว (Ryukyu Mura Village)

ที่มา: https://diversity-finder.net/wp-content/uploads/2016/12/ryukyumura4.jpg

Ryugyu Mura หรือหมู่บ้านริวกิว เป็นธีมพาร์คขนาดเล็กที่มีคอนเซปต์เป็นการเผยแผ่วัฒนธรรมดั้งเดิมของโอกินาว่าในสมัยราชวงศ์ริวกิว

หมู่บ้านริวกิวประกอบไปด้วยบ้านพักแบบดั้งเดิมที่มุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดง ล้อมรอบตัวบ้านด้วยกำแพงหิน

นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและกิจกรรมเวิร์กชอปต่างๆที่ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าร่วมได้ เราจะได้ทดลองประดิษฐ์สิ่งของต่างๆในสไตล์ริวกิว ไม่ว่าจะเป็นการทำเครื่องปั้นดินเผา ถักที่รองแก้ว หรือทาสีรูปปั้น Shisa ขนาดเล็ก

หรือใครเป็นสายดนตรีก็สามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการเล่นเครื่องดนตรีท้องถิ่นอย่าง Sanshin ก็ย่อมได้

นอกจากนี้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการแสดงมากมาย อาทิ การแสดงตีกลอง Eisa Taiko การแสดงระบำริวกิว คอนเสิร์ต ขบวนพาเหรด และพิธีกรรมต่างๆที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยริวกิว

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถทานอาหารยอดนิยมของโอกินาว่าและซื้อของที่ระลึกจากท้องถิ่นได้อีกด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับหมู่บ้านริวกิว (Ryukyu Mura Village)

วิธีเดินทางนั่งรถบัส
  • Naha ไปยัง Nago แล้วลงที่ป้าย Ryukyu mura ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
พิกัด
  • 1130 ยามาดะ อนนะซน คุนิงามิกุง จังหวัดโอกินาว่า
เวลาทำการ
  • 09:00 – 17:30 น.
ค่าธรรมเนียม
  • ผู้ใหญ่ 1,500 เยน
  • นักเรียนมัธยม 1,300 เยน
  • นักเรียนประถม 600 เยน
  • เด็กต่ำกว่า 6 ขวบ เข้าชมฟรี
เว็บไซต์

Back To Top

2. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)

Moddy / Shutterstock

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ว่ากันว่าหากไม่ได้ไปที่นี่ก็เหมือนไปไม่ถึงโอกินาว่า

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิเป็นส่วนหนึ่งของ Ocean Expo Park จัดว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก เพราะมีความจุใหญ่พอที่จะให้ฉลามวาฬว่ายน้ำเล่นได้

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Motobu ปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำถึง 740 ชนิด

ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)

วิธีเดินทาง
  • หากเดินทางมาจากสนามบินนาฮะ สามารถโดยสารรถ Express Bus, รถบัสท้องถิ่น และแท็กซี่ได้ โดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (ผ่านทางด่วนโอกินาว่า) และรถ Express Bus ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
พิกัด
  • 424 Azaishikawa, Motobu, Kunigami District, Okinawa
เวลาทำการ
  • เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ : 8:30 – 18:30 น.
  • เดือนมีนาคม – กันยายน : 8:30 – 20:00 น.
ค่าธรรมเนียม
  • ผู้ใหญ่ 1,800 เยน
  • นักเรียนมัธยม 1,250 เยน
  • นักเรียนประถม 620 เยน
  • เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ เข้าชมฟรี
เว็บไซต์

Back To Top

3. ซากปราสาทนากิจิน (Nakijin Castle)

Japan_sFireworks / Shutterstock

ปราสาทนากิจิน (Nakijin Castle) ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Motobu ทางตอนเหนือของโอกินาว่า และเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก

ปราสาทนากิจินนั้น นอกจากจะมีความสวยงามเทียบเท่ากับปราสาทชูริแล้วก็ยังตั้งอยู่ในพื้นที่ปลอดผู้คนด้วย กำแพงปราสาทมีก้อนหินริวกิววางซ้อนเป็นเส้นโค้งอย่างงดงาม กลมกลืนไปกับภูมิประเทศและบรรยากาศสดชื่นที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม สร้างเอกลักษณ์ความเป็นปราสาทนากิจินได้เป็นอย่างดี

ปราสาทนากิจินถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายยุค 1200 ย้อนไปในสมัยโบราณ ราชอาณาจักรริวกิวมีช่วงของยุคสงครามกลางเมืองที่เรียกกันว่า ‘ยุคสมัยซันซัง’ ในช่วงนั้นราชอาณาจักรริวกิวแบ่งออกเป็น 3 ก๊ก อันได้แก่ โฮคุซัง (Hokuzan) , ชูซัง (Chuzan) และ นันซัง (Nanzan) ครั้งหนึ่งปราสาทนากิจินเคยเป็นของราชาแห่งโฮคุซัง ผู้ซึ่งปกครองพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่ตอนเหนือของโอกินาว่าไปจนถึงภูมิภาคอามามิ แต่ในปี 1416 ก็ถูกโจมตีโดยโชฮาชิผู้ซึ่งปกครองชูซัง ท้ายที่สุดแล้วโชฮาชิก็ได้รวบรวม 3 ก๊กเข้าให้เป็นหนึ่งเดียวกัน กำเนิดเป็นราชอาณาจักรริวกิว

นอกจากซากปรักหักพังของปราสาทแล้ว ที่นี่ยังมีศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม หมู่บ้านนากิจิน มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่จัดแสดงสิ่งของที่ถูกค้นพบในบริเวณปราสาท เช่น เครื่องปั้นดินเผา เหรียญจีน และเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของหมู่บ้านนากิจินในอดีตอีกด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับซากปราสาทนากิจิน (Nakijin Castle)

วิธีเดินทาง
  • ขึ้นรถบัสด่วนสาย #111 ที่สนามบินนาฮะ ไปลงที่สถานีขนส่ง Nago ซึ่งเป็นป้ายรถเมล์สุดท้าย จากนั้นขึ้นรถบัสสาย # 66 ที่สถานีขนส่ง Nago และลงที่ป้าย Nakijin Joseki Iriguchi เดินประมาณ 15 นาที
พิกัด
  • 5101 อิมาโดมาริ, นากิจิน, คุนิกามิ, จังหวัดโอกินาว่า
เวลาทำการ
  • 9:00 – 18:00 น.
ค่าธรรมเนียม
  • 400 เยน (สำหรับเข้าชมปราสาทและพิพิธภัณฑ์)
เว็บไซต์

Back To Top

4. แหลมมังซาโมะ (Cape Manzamo)

แหลมมังซาโมะ (Cape Manzamo) เป็นหน้าผาปะการังที่สวยงาม สถานที่แห่งนี้หันออกไปทางทะเลจีนตะวันออก

พื้นที่บนหน้าผาอุดมไปด้วยพืชพรรณธรรมชาติ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติโอกินาว่า

หากเดินเล่นไปตามทางเดิน เราจะเห็นหน้าผาปะการังรูปช้างซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียง

แหลมมังซาโนะนั้นไม่เพียงแต่มีทิวทัศน์ที่แสนงดงามของมหาสมุทรเท่านั้น แต่ทัศนียภาพยามอาทิตย์ตกดินก็สวยงามไม่แพ้ที่ใดๆในโอกินาว่าเลย

ข้อมูลเกี่ยวกับแหลมมังซาโมะ (Cape Manzamo)

วิธีเดินทาง
  • จากสถานีรถบัส Kokusaisen Ryokaku (Naha bus terminal) ให้นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Onna Son Yakuba mae (ใช้เวลา 2 ชม.) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 13 นาที
พิกัด
  • Manzamo Onna, Kunigami District, Okinawa
เว็บไซต์

Back To Top

5. แหลมมาเอดะและถ้ำใต้น้ำ (Cape Maeda & Blue cave)

แหลมมาเอดะ (Cape Maeda) ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของใจกลางโอกินาว่า โขดหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านกลางแนวปะการังที่ยกตัวสูงขึ้นเหนือระดับน้ำทะเล ด้านล่างสามารถมองเห็นมหาสมุทรสีเขียวมรกตและแนวปะการังที่สวยงามของโอกินาว่า

ที่มา: https://bit.ly/2HzplAx

สำหรับถ้ำ Blue Cave นั้นเป็นสถานที่ที่ผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำจะพลาดไม่ได้เลย เพราะทัศนียภาพภายในถ้ำเป็นสีฟ้าสมชื่อ Blue Cave 

นักดำน้ำสามารถดำได้ลึกถึง 30 เมตรสู่บริเวณ Manza Dream Hole หรือคนที่ไม่สะดวกดำน้ำก็สามารถนั่งเรือท้องกระจกของ Busena Marine Park เพื่อชมความงามของที่นี่ได้เช่นกัน

ข้อมูลเกี่ยวกับแหลมมาเอดะและถ้ำใต้น้ำ (Cape Maeda & Blue cave)

วิธีเดินทาง
  • โดยสารรถบัสจากสนามบิน Naha ไปยังสถานีขนส่ง Ryukyu-Mura (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) จากนั้นเดินไปยัง Cape Maeda (ที่ถ้ำ Blue Cave) ใช้เวลามากกว่า 30 นาที หรือนั่งแท็กซี่โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที

Back To Top

หมู่เกาะรอบนอก

    1. เกาะโทกะชิกิ (Tokashiki Island)
    2. เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island)
    3. เกาะมิยาโกะ (Miyako Island)
    4. เกาะคุเมะ (Kume Island)
    5. เกาะฮาเตะโนะฮามะ (Hatenohama Island)

1. เกาะโทกะชิกิ (Tokashiki Island)

เกาะโทกะชิกิ (Tokashiki Island) เป็นเกาะที่กินพื้นที่มากสุดในวนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเครามะ ใช้เวลาเดินทางเพียง 35 นาทีจากท่าเรือโทมาริ ที่เกาะแห่งนี้มีหอชมวิวที่เมื่อทอดสายตาออกไปจะเห็นทิวทัศน์ของทะเลสีครามอันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคณะเยาวชนที่ต้องการค้างแรมด้วย อีกทั้งยังเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากหนุ่มสาวชาวโอกินาว่าและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ทางฝั่งตะวันตกของเกาะยังมีชายหาดโทคุคะชิคุและหาดอาฮะเรน ซึ่งเป็นหาดที่สวยงามและเป็นนิยมมากที่สุด มีบริการห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ และร้านค้า นอกจากนี้ยังมีร้านบริการให้เช่าชุดอุปกรณ์ดำน้ำลึกและสนอร์เกิลด้วย

หากมาเที่ยวที่นี่ก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติทางทะเลที่เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบของระบบนิเวศ ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลหลากชนิด แนวปะการังที่สวยงาม และบางครั้งเราอาจจะเห็นแม่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่บนชายหาดด้วยนะ

ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะโทกะชิกิ (Tokashiki Island)

วิธีเดินทาง
  • นั่งเรือจากท่าเรือโทมาริ – ท่าเรือโทะคากิ / เรือด่วนใช้เวลา 35 นาที ส่วนเรือเฟอร์รี่ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที *ไม่สามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้

Back To Top

2. เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island)

เกาะอิชิงากิ หนึ่งในเกาะรอบนอกของโอกินาว่าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ถัดจากเกาะหลักโอกินาว่าและเกาะอิริโอโมเตะ

ด้วยความที่เป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และการคมนาคม บรรยากาศในเมืองจึงเต็มไปด้วยสีสันของเหล่าผู้คนที่สัญจรไปมา รวมทั้งเพลิดเพลินกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติได้พร้อมๆกัน ณ เกาะแห่งนี้

ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island)
  • วิธีการเดินทาง จากสนามบินนาฮา – สนามบินอิชิงาคิ มินามินุชิมะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
    *ไม่สามารถเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ได้

Back To Top

3. เกาะมิยาโกะ (Miyako Island)

เกาะมิยาโกะเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของจังหวัดโอกินาว่า เนื่องจากมีพื้นที่ราบเรียบและไม่มีภูเขาสูง จึงทำให้มองเห็นทัศนียภาพของชายทะเลได้จากหลายจุด พร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศสดชื่นผ่อนคลายด้วยวิวทิวทัศน์ที่แสนงดงาม

ว่ากันว่าชายหาดบนเกาะมิยาโกะสวยงามมาก แนวปะการังรอบเกาะก็เหมาะกับกิจกรรมดำน้ำตื้นมากที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือเราสามารถไปเที่ยวเกาะมิยาโกะได้ตลอดทั้งปีด้วย แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ควรไปเกาะแห่งนี้จะอยู่ระหว่างเดือนเมษายน – พฤศจิกายนเพราะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูงสุดไม่เกิน 25 องศา ซึ่งทำให้น้ำทะเลอุ่นกำลังดี

ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะมิยาโกะ (Miyako Island)

วิธีเดินทาง
  • จากสนามบินนาฮา – สนามบินมิยาโกะ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
    *ไม่สามารถเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ได้

Back To Top

4. เกาะคุเมะ (Kume Island)

เกาะคุเมะ (Kuma Island) ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลจีนตะวันออก ซึ่งมีระยะห่างจากเกาะหลักโอกินาว่าไปทางทิศตะวันตกประมาณ 100 กิโลเมตร นอกจากจะเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโอกินาว่าแล้ว ก็ยังเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยแนวปะการังที่แสนงดงาม

ในสมัยราชวงศ์ริวกิว เกาะคุเมะเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมากที่สุดจนได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘คุมิโนะชิมะ’ (Kumi no Shima) ซึ่งหมายถึง ‘เกาะที่สวยงามราวอัญมณี’ หรือ ‘เกาะที่มีความสวยงามโดดเด่นมากที่สุดในบรรดาเกาะแก่งต่างๆของหมู่เกาะริวกิว’

พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะคุเมะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติประจำจังหวัดโอกินาว่า นอกจากนี้กระแสน้ำคุโรชิโอะที่อยู่ใกล้ชายฝั่งของเกาะคุเมะยังก่อให้เกิดเขตประมงที่อุดมสมบูรณ์ จนกลายเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากเหล่านักตกปลา

เกาะคุเมะ (Kume Island)

วิธีการเดินทาง
  • จากสนามบินนาฮา – สนามบิน ใช้เวลาเกาะคุเมะ ใช้ประมาณ 30 นาที
    นั่งเรือจากท่าเรือโทมาริ – ท่าเรือคาเนะกุซุคุ, เกาะคุเมะ เรือเฟอร์รี่ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง

เว็บไซต์

Back To Top

5. เกาะฮาเตะโนะฮามะ (Hatenohama Island)

ฮาเตะโนะฮามะเป็นเกาะที่มีเพียงหาดทรายซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะคุเมะ ว่ากันว่างดงามที่สุดในซีกโลกตะวันออก และเป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เกาะแห่งนี้ถูกจัดอันดับความนิยมไว้เป็นอันดับต้นๆของชายหาดในโอกินาว่าเสมอ

เมื่อมองไปรอบๆเกาะ เราจะเห็นเพียงหาดทรายสีขาวสะอาดตากับท้องทะเลสีเขียวมรกต เกาะแห่งนี้ไม่มีร่มเงาจากต้นไม้หรือโขดหินสูงเลย เพราะเกาะฮาเตะโนะฮามะเป็นเกาะร้าง! ถ้าใครได้ไปเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมพกครีมกันแดดไปด้วยนะ

เกาะฮะเตะโนะฮามะ (Hatenohama Island)

วิธีการเดินทาง
  • นั่งเรือจากเกาะคุเมะ ใช้เวลา 20 นาที

Back To Top

อาหารท้องถิ่นของโอกินาว่า

จังหวัดโอกินาว่ามีความแตกต่างอย่างมากจากจังหวัดอื่นๆในญี่ปุ่น อาหารที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากการผสมผสานกันของวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกของโอกินาว่า จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีอาหารรสเลิศมากมายที่เราสามารถพบได้แค่บนเกาะแห่งนี้เท่านั้น

จุดเด่นของอาหารในโอกินาว่านั้นเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการซึ่งดีต่อสุขภาพ

เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าอาหารขึ้นชื่อของเกาะแห่งนี้มีอะไรบ้าง

สารบัญย่อย

  1. ชัมปุรุ (Champuru)
  2. โอกินาว่าโซบะ (Okinawa Soba)
  3. ทาโคไรซ์ (Taco Rice)
  4. ซาชิมิเนื้อแพะ (Yagi Sashimi)
  5. ไอศกรีมเกลือ (Salt Ice cream)
  6. อะวาโมริ (Awamori)

1. ชัมปุรุ (Champuru)

Champuru หมายถึง ‘ผัด’ ในภาษาโอกินาว่า และหมายความว่าส่วนผสมต่างๆของอาหารจานนี้ผ่านการปรุงสุกมาด้วยวิธีผัด เมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Goya Champuru เป็นมะระโอกินาว่าที่มีรสขม ผัดกับเต้าหู้ ไข่ และหมู

นอกจากนี้ยังมีการผัดแบบอื่น ได้แก่ Champuru Fu (กลูเตนข้าวสาลี) , Champuru เต้าหู้, และ Champuru มะละกอ

Back To Top

2. โอกินาว่าโซบะ (Okinawa Soba)

ถ้าเทียบกับอาหารบ้านเรา เมนูนี้มีความนิยมเทียบเท่ากับต้มยำกุ้งเลยทีเดียว เพราะโอกินาว่าโซบะมีความแตกต่างจากโซบะทั่วไป เนื่องจากใช้ส่วนผสมจากข้าวสาลีมากกว่าแป้งบัควีท เส้นจึงให้ความรู้สึกที่คล้ายกับเส้นอุด้งมากกว่าเส้นโซบะ

โอกินาว่าโซบะมีลักษณะคล้ายกับเส้นราเมนเสิร์ฟในน้ำซุปพร้อมทอปปิ้งหลากชนิด ทอปปิ้งส่วนใหญ่คือหมูตุ๋น เรียกว่าโซกิโซบะ และยังมีต้นหอม คามาโบโกะ (เค้กปลา) และขิงแดง

Back To Top

3. ทาโคไรซ์ (Taco Rice)

แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนสำหรับต้นกำเนิดของอาหารจานนี้ แต่ที่รู้กันแน่ๆคือเราค้นพบ Taco Rice ในโอกินาว่าตอนช่วงก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

หน้าตาของ Taco Rice ก็ดูจะละม้ายคล้ายกับข้าวราดแกงบ้านเรา แต่ส่วนผสมของตัวกับนั้นจะมีเนื้อ ผักสลัด มะเขือเทศ และซอสซัลซา ราดบนข้าวสวยเม็ดอ้วนกลมร้อนๆ นอกจากนี้ยังมักจะมีทอปปิ้งอื่นเพิ่มเข้ามา เช่น ชีสหรือหัวหอม

แม้ว่าปกติแล้วชาวญี่ปุ่นจะคุ้นเคยกับการใช้ตะเกียบทานข้าว แต่สำหรับการรับประทานทาโคไรซ์เรามักจะใช้ช้อนมากกว่า อาหารชนิดนี้จึงได้รับความนิยมจากชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในโอกินาว่าเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือราคาจับต้องได้ เรียกว่าอิ่มจังตังค์เหลือเยอะเลยก็ว่าได้นะ

Back To Top

4. ซาชิมิเนื้อแพะ (Yagi Sashimi)

Yagi sashimi หรือเนื้อแพะซาชิมิ เป็นหนึ่งในอาหารท้าทายที่ต้องลองในโอกินาว่า

เนื้อแพะซาชิมิที่นี่ถูกเสิร์ฟแบบเดียวกันกับซาชิมิอาหารทะเลทั่วไป มีรสชาติและกลิ่นที่ค่อนข้างแรง อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวเป็นพิเศษอีกด้วย

Back To Top

5. ไอศกรีมเกลือ (Salt Ice-cream)

อ่านแล้วอาจจะตกใจกับชื่อ ‘ไอศกรีมเกลือ’ หลายคนคงสงสัยว่างั้นมันก็เป็นไอศกรีมรสเค็มน่ะสิ!? แต่เชื่อเถอะว่าถ้ารู้ที่มาแล้วทุกคนจะต้องอยากชิมแน่นอน

‘Yukishio’ หมายถึงเกลือหิมะ ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพจากเกาะมิยาโกะในโอกินาว่า ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่ามีแร่ธาตุหลากหลายชนิดมากที่สุดในโลก เกลือหิมะนั้นมีรสชาติอันหลากหลายให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรสชบา, โกโก้, วาซาบิ, พริกไทย, งาดำ, ชาเขียว ฯลฯ

Back To Top

6. อะวาโมริ (Awamori)

อะวาโมริ (Awamori) เป็นสุรากลั่นที่มีลักษณะเฉพาะของโอกินาว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ระหว่าง 30-40 เปอร์เซ็นต์ คล้ายกับเหล้าโชจูของภูมิภาคคิวชู แต่ต่างกันตรงที่อะวาโมริทำจากข้าวไทยและใช้ราดำในการหมัก

อาวะโมรินับว่าเป็นเครื่องดื่มพื้นเมืองของโอกินาว่า และยังมีจำหน่ายอย่างกว้างขวางทั่วทั้งเกาะอีกด้วย

สายดื่มห้ามพลาดนะ!

Back To Top

อื่นๆ : แหล่งชอปปิ้งในโอกินาว่า

  1. AEON MALL Okinawa Rycom
  2. American Village
  3. Blue Seal Makiminato

1. AEON MALL Okinawa Rycom

Applepy / Shutterstock

สำหรับผู้ที่รักการชอปปิ้งเป็นชีวิตและจิตใจ คงพลาดไม่ได้ที่จะไม่มาสถานที่แห่งนี้

AEON MALL Okinawa Rycom เป็นศูนย์การค้าที่มีร้านค้าให้ช้อปกว่า 220 ร้าน รวมทั้งอาหารอร่อยมากมาย อีกทั้งยังมีสิ่งให้ความบันเทิงทางวัฒนธรรม รวมความหลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอกินาว่า โดยจะสังเกตเห็นว่าทางเข้ามีรูปปั้น Shiisaa ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความเป็นโอกินาว่าอย่างแท้จริง

ข้อมูลเกี่ยวกับ AEON MALL Okinawa Rycom

วิธีเดินทาง
  • นั่งรถบัสสาย #125 หรือ #152 จาก Naha Bus Terminal ไปลงที่ป้าย Aeon Mall Okinawa Rycom : Express Line ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 24 นาที
พิกัด
  • 1 rycom kitanakagusuku-son nakagami-gun okinawa
เวลาทำการ
  • 10:00 – 22:00 น.
เว็บไซต์

Back To Top

2. American Village

tutae / Shutterstock

American Village เป็นศูนย์รวมร้านอาหารและย่านชอปปิ้งที่มีชื่อเสียงของโอกินาว่า เราสามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิ้งสินค้านำเข้าจากอเมริกา ไปจนถึงร้านค้าขายของท้องถิ่นของโอกินาว่า

ภายในมีห้างสรรพสินค้ากลางแจ้งขนาดใหญ่สไตล์อเมริกัน มีชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ และร้านเสื้อผ้าแบรนด์อเมริกัน รวมทั้งร้านอาหารอเมริกันแท้ๆ เช่น ฮอตดอกและแฮมเบอร์เกอร์ ยิ่งไปกว่านั้น เราสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนโรแมนติกด้วยการนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน ณ ริมหาดได้ด้วย อีกทั้งในยามพลบค่ำเราก็สามารถสนุกสนานไปกับบรรยากาศของค่ำคืนที่ไม่ยอมหลับใหล นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการให้เช่าจักรยานด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับ American Village

วิธีเดินทาง
  • นั่งรถบัสสาย 28, 29, 120 จาก Naha Bus Terminal ไปลงที่ป้าย Kuwae ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
พิกัด
  • American Village, 9-1 Mihama, Chatan, Okinawa
เวลาทำการ
  • 10:00 – 22:00 น.
เว็บไซต์

Back To Top

3. Blue Seal Makiminato


ร้าน Blue Seal แห่งแรกที่เปิดในจังหวัดโอกินาว่าคือสาขามากิมินาโตะแห่งนี้นี่เอง! ด้วยการออกแบบและการตกแต่งภายในร้านเป็นแบบอเมริกันย้อนยุค จึงทำให้เราเหมือนไปอเมริกาทั้งที่ยังยืนอยู่ในโอกินาว่าเลยทีเดียว

นอกจากนี้เรายังสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารอเมริกัน เช่น แฮมเบอร์เกอร์ และอาหารอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงขนมหวาน เช่น ไอศกรีมและพาร์เฟ่ต์

หากเบื่ออาหารญี่ปุ่น ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ข้อมูลเกี่ยวกับ Blue Seal Makiminato

วิธีเดินทาง
  • นั่งรถบัสจาก Kokusaisen Ryokaku Terminal mae สาย #120 ไปลงที่ป้าย Daiichi Makiminato
พิกัด
  • 5 – โชเมะ – 5- 6 มากิมินาโตะ, อุระโซเอะชิ จังหวัดโอกินาว่า
เวลาทำการ
  • 10:00 – 23:00 น.
เว็บไซต์

แหล่งอ้างอิง

Back To Top