สะพานคินไทเคียว จ. ยามากุจิ สะพานไม้ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

สะพานคินไทเคียว จ. ยามากุจิ สะพานไม้ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

สะพานคินไทเคียว (Kintaikyo Bridge) เป็นสะพานไม้ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น สะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองอิวะคุนิ จังหวัดยามากุจิ มีลักษณะเป็นสะพานไม้ 5 โค้ง กว้าง 5 เมตร ยาว 193.3 เมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น

ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับสะพานคินไทเคียวกันให้มากขึ้นครับ

สารบัญ

1.จุดเด่นของสะพานคินไทเคียว

2.ประวัติของสะพานคินไทเคียว

3.บรรยากาศดีๆที่สะพานคินไทเคียว

4.ข้อมูลเกี่ยวกับสะพานคินไทเคียว (Kintaikyo Bridge)

จุดเด่นของสะพานคินไทเคียว

จุดเด่นของสะพานคินไทเคียวนั้น นอกจากรูปร่างที่สวยงามแล้วก็ยังมีเรื่องของวิธีการสร้างสะพาน โดยสะพานถูกดัดให้โค้งด้วย Makikin หรือสายรัดเหล็ก และมีการใช้เทคนิคการประกอบไม้ที่เรียกว่า ‘คะซุไง’ ซึ่งก็คือการใช้ตะปู 2 ตัวในการยึดปลายให้ติดกัน ตะปูที่ว่านี้เป็นตะปูปลายแหลม 2 ด้านรูปตัว U สำหรับตอกเชื่อมไม้สองชั้น

คะซุไงนับว่าเป็นเทคนิคการประกอบไม้ระดับสูง ด้วยเทคนิคนี้ ยิ่งสะพานได้รับแรงกดทับจากด้านบนมากเท่าไร สะพานก็จะยิ่งมีความแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น

ประวัติของสะพานคินไทเคียว

สำหรับความเป็นมาของสะพานคินไทเคียวนั้น เดิมที ‘คิกคาวะ ฮิโรอิเอะ’ ไดเมียวของอาณาจักรอิวะคุนิเริ่มวางแผนสร้างสะพานแห่งนี้เพื่อใช้ป้องกันข้าศึกรุกรานในช่วงปี ค.ศ. 1600 แต่ต่อมาสะพานคินไทเคียวที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างก็เกิดความเสียหายเนื่องจากกระแสน้ำในแม่น้ำนิชิกิซัดเข้าใส่

จนในที่สุดก็มีการสร้างสะพานใหม่ขึ้นมาทดแทนของเดิมที่พังทลายจากกระแสน้ำเชี่ยวกราก โดย ‘คิกคาวะ ฮิโรโยชิ’ ไดเมียวคนที่ 3 ของอาณาจักรอิวะคุนิได้ออกแบบรูปทรงสะพานให้มีความคงทนและเป็นเอกลักษณ์ดังที่เห็นในปัจจุบัน จนในปี ค.ศ. 1673 สะพานคินไทเคียวก็เสร็จสมบูรณ์

นับตั้งแต่นั้นสะพานคินไทเคียวก็คงอยู่ได้เรื่อยมา จนในที่สุดเมืองอิวะคุนิก็เจอพายุไต้ฝุ่นในปี 1950 และสะพานก็ถูกพายุพัดทำลาย

ขณะนั้นญี่ปุ่นเพิ่งแพ้สงครามโลกครั้งที่สองมาได้ไม่นาน สะพานจึงถูกทิ้งไว้ในสภาพปรักหักพัง แต่ในที่สุดก็มีการรวบรวมเงินบริจาคของชาวเมืองเพื่อสร้างสะพานอีกครั้งในปี 1953 ทำให้สะพานคินไทเคียวอยู่คู่เมืองอิวะคุนิมาได้จนถึงปัจจุบัน

บรรยากาศดีๆที่สะพานคินไทเคียว

ทิวทัศน์รอบสะพานคินไทเคียวสวยสบายตามากครับ เราจะเห็นทั้งภูเขาและแม่น้ำนิชิกิ (Nishiki River) และเมื่อเดินข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำ เราจะเจอปราสาทอิวะคุนิ (Iwakuni Castle) ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาด้วย

ที่ฝั่งปราสาทอิวะคุนิจะมีกิมมิคที่เราสามารถไปเยี่ยมชมกันได้ นั่นคือรูปปั้นของ ‘ซาซากิ โคจิโร่’ ซามูไรผู้เป็นคู่ปรับคนสุดท้ายของ ‘มิยาโมโตะ มุซาชิ’ ซามูไรชื่อดัง (ไม่ใช่มุซาชิ โคจิโร่ในโปเกมอนนะ คนละคนกัน!)

สั้นๆเกี่ยวกับโคจิโร่คือเป็นยอดฝีมือดาบโนดาชิ หรือดาบยาวที่เหมาะสำหรับใช้ในการทำสงคราม อาวุธคู่ใจของเขาคือ ‘ดาบโมโนโฮชิซาโอ (Monohoshizao)’ ที่แปลว่าราวตากผ้า แต่ในท้ายที่สุดนั้นโคจิโร่ก็แพ้มุซาชิและจบชีวิตลงในการดวลครั้งนั้น

หลายๆคนอาจจะพอคุ้นกับการ์ตูนเรื่อง ‘ไยบะ’ ที่เขียนโดยโกโช อาโอยาม่า (คนเดียวกับที่เขียนการ์ตูนเด็กแว่นมรณะ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน) โคจิโร่ก็คือหนึ่งในตัวละครหลักของการ์ตูนเรื่องนี้นั่นเองครับ

ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับด้วย ถ่ายรูปได้เพลินๆครับ วิวสวยดี

ข้อมูลเกี่ยวกับสะพานคินไทเคียว (Kintaikyo Bridge)

ที่อยู่

Kintaikyo Bridge
Iwakuni, Iwakuni City, Yamaguchi Prefecture 741-0062

โทร

0827-29-5107

วันและเวลาทำการ

สะพานเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา

ค่าเข้าชม

มีค่าเดินข้ามสะพาน 310 เยน (ไปกลับ) หรือ 970 เยน (รวมค่าเข้าปราสาทอิวะคุนิและค่า Ropeway ขึ้นไปยังปราสาท)

การเดินทาง

จากสถานีรถไฟ Hiroshima ให้ขึ้นรถไฟสาย Sanyo ไปลงที่สถานี Iwakuni (ใช้เวลา 50 นาที ค่าโดยสาร 770 เยน ใช้ JR PASS ได้) แล้วนั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Kintaikyo (ใช้เวลา 20 นาที ค่าโดยสาร 300 เยน) แล้วเดินต่ออีก 3 นาที

สำหรับผู้ที่ต้องการนั่งรถไฟชินคันเซ็น ให้ขึ้นรถไฟแบบ Kodama ไปลงที่สถานี Shin Iwakuni (ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 1,640 เยน สำหรับตั๋วไม่จองที่นั่ง 3,000 เยน สำหรับตั๋วจองที่นั่ง ใช้ JR PASS ได้) แล้วนั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Kintaikyo (ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 350 เยน)  แล้วเดินต่ออีก 3 นาที

เว็บไซต์

http://kintaikyo.iwakuni-city.net/en/

อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดยามากุจิ

One Day Trip ที่ศาลเจ้า Toishihachi-Mangu และ check in แบบชิคๆที่ Tokuyama Station

 

ย้อนกลับไปด้านบน