Naoshima – เกาะศิลปะสุดน่ารักพักผ่อนสบาย ตอนที่ 1 Art Hopping

สำหรับคนที่ชื่นชอบงานศิลปะ นาโอะชิมะหรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่าเกาะศิลปะน่าจะเป็นหนึ่งใน destination ที่ใฝ่ฝัน เพราะมีงานศิลปะจากศิลปินทั้งในและนอกญี่ปุ่นกระจัดกระจายอยู่ทั่ว
มีอาร์ตมิวเซียมมากมายและหลายๆ อาคารคืองานศิลปะนั่นเอง สำหรับการเดินทางบนเกาะ จะนั่งบัสก็ได้ จะเช่ารถขับก็ดี จะขี่จักรยานเล่นก็เพลินๆ ที่นี่มีงานศิลปะน้อยใหญ่่ซ่อนตัวเต็มไปหมด วันนี้เราขอยกไฮไลต์ส่วนหนึ่งมาแนะนำ
เป็นการสำรวจเบื้องต้นก่อนไป art hopping กัน

ฟักทองทั้งสองของคุณป้า Yayoi Kusuma

กลายเป็นธรรมเนียมของการมาเที่ยวที่นี่ไปแล้ว ถ้าใครไม่ได้ถ่ายรูปฟักทองของคุณป้ายาโยอิ คุสุมะ เหมือนมาไม่ถึงนาโอชิมะ ฟักทองทั้งสองกระจายตัวให้ถ่ายรูปอยู่คนละมุมของเกาะ
ฟักทองสีแดงที่เราสามารถเข้าไปด้านในได้อยู่ที่ท่าเรือมิยาโนะอุระ สามารถเริ่มรัวชัตเตอร์กันได้แต่ตั้งยังอยู่บนเรือ

ส่วนน้องสีเหลืองอยู่ริมทะเลหน้าโรงแรม Benesse ใครสะดวกทางไหน ชอบสีอะไรก็เลือกไว้ไปได้ตามสะดวก

แน่นอนว่า คิวยาวหน่อยนะ ขอให้อดทนเพื่อคุณป้ายาโยอิ

Art House Project

อาร์ตเฮาส์โปรเจคคือ
โครงการนำบ้านร้างเก่าในย่านชุมชนแถบฮงมุระมาปรับปรุงเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะหรือเป็นงานศิลปะเองเลย ทั้งหมดมี 7 หลัง แต่ละหลังก็ได้ศิลปินเก่งๆ มาปรับโฉม
โดยเน้นผสมผสานความคิดสร้างสรรค์กับประวัติความเป็นมาและคนในท้องถิ่น ตัวอย่างอาร์ตเฮาส์(ที่ถ่ายรูปมาอวดได้) ได้แก่

ศาลเจ้า Go’o

นี่คือศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างไว้หลายปี อยู่บนเนินเขาติดขอบทะเล วิวสวยไม่น้อย Hiroshi Sugimoto
ศิลปินผู้ได้รับมอบหมายจึงตีความ บูรณะและออกแบบใหม่ให้ทันสมัยและเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น ด้านนอกดูเรียบเท่สงบ ส่วนด้านล่างนั้นเก๋ไก๋ไม่เบาเพราะมีทาวเดินแคบๆ ที่เสริมความรู้สึกลี้ลับ และบันไดแแก้วสวยสงาสเชื่อมทางไปยังจุดบูชา สื่อถึงการเชื่อมโยงระหว่างสวรรค์และพื้นโลก นอกจากนี้ยังทำไว้ให้ท่านเทพเจ้าที่มาจากทะเลแวะมาได้สะดวกขึ้นด้วย

Haisha House

บ้านหลังนี้ที่ดูเหมือนจะเก่าๆ งงๆ เอาสังกะสีมาประกอบเป็นผนังคือ ผลงานแนวร่วมสมัยของ Shinro Otake ที่ทำให้รู้สึกสนุกตั้งแต่ดูอยู่ข้างนอกแล้ว ยิ่งหันไปเห็นเทพีเสรีภาพโผล่หน้ามาทักทาย ยิ่งทำให้รู้สึกว่า เฮ้ย สนุก

อีกที่ที่ไม่อยากให้พลาดคือ minami-dera จาก James Turrell

พิพิธภัณฑ์ Chichu Art Museum

 นี่ก็ห้ามพลาดเด็ดขาด ดีมาก มาก มาก เริ่มตั้งแต่ตัวอาคารสุดล้ำแสนเท่และน่าสนใจไม่แพ้งานศิลปะที่จัดแสดง ที่นี่เป็นผลงานออกแบบของสถาปนิกชื่อดังอย่างทาดาโอะ อันโดนั่นเอง ก่อตั้งขึ้นในปี 2004
ผลงานที่จัดแสดงที่นี่นั้นเรียกได้ว่า มีแต่ตัวท็อประดับโลก เช่น Claude Monet, James Turrell, Walter De Maria
สินค้าที่ระลึกที่นี่ก็น่าสะสมจนกระเป๋าสตางค์ได้รับบาดเจ็บ ที่นี่คิวค่อนข้างยาว รีบมาเอาบัตรคิวกันหน่อยก็ดี
ข้างในถ่ายรูปไม่ได้ แต่สวนสวนด้านนอกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพวาดของโมเนต์ถ่ายได้นะ อิอิ

Benesse House

ที่นี่เป็นทั้งมิวเซียมและโรงแรม อีกหนึ่งผลงานออกแบบสุดเท่ของทาดาโอะ อันโด
หลายคนน่าจะเคยเห็นภาพอาคารที่เมื่อมองจากด้านบน จะเห็นว่าทั้ง 4 อาคารเป็นทรงเลขาคณิตเก๋ๆ
ผลงานที่จัดแสดงด้านในเป็นผลงานที่สร้างสรรค์มาเพื่อที่นี่โดยเฉพาะ ส่วนผลงานศิลปะมีทั้งในและนอกอาคาร ลามไปถึงชายหาดเลยล่ะ

Miyanoura Gallery 6

ที่นี่ตั้งอยู่ในย่านมิยะโนะอุระ สะดุดตาเราด้วยความเก๋ไก๋ของอาคารที่เหมือนจะเรียบง่ายแต่ดูมีอะไร และสะดุดใจเมื่อได้รู้ว่าก่อนจะมาเป็น art space ฮิปๆ ที่นี่เคยเป็นร้าน “ปาจิงโกะ” มาก่อน!

Naoshima Bath I love Yu

I love Yu too. Yu ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า น้ำร้อน พูดตามตรงที่นี่เป็นที่ที่เราชอบมากที่สุดบนเกาะเลย เพราะโรงอาบน้ำสาธารณะแห่งนี้ลงตัวทุกอย่างตั้งแต่ในแง่ศิลปะที่ฉูดฉาดบาดใจเกินความเป็นโรงอาบน้ำทั่วไป, ความสัมพันธ์กับท้องถิ่นที่เราได้เจ๊าะแจ๊ะกับคนในชุมชน(และนักท่องเที่ยว)อย่างใกล้ชิด และความสบายที่ได้จากการแช่น้ำร้อนที่ทำให้รู้สึกว่ามาพักผ่อนจริงๆ